วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2554

รัฐตามทรรศนะของ "อริสโตเติล" มีวิวัฒนาการมาอย่างไร

           เพราะว่าเป็นสัตว์ใฝ่สังคม คนจึงก่อตั้งรัฐขึ้นมา แม้ไม้ได้คาดคิดถึงประโยชน์เกินไปว่าการที่ได้เข้ามีสัมพันธ์ต่อกัน แต่ประโยชน์อื่นๆมีอยู่ รัฐเป็นประชาคมซึ่งทำให้ชีวิตดีขึ้นและสมบูรณ์ขึ้นกว่าไม่มีรัฐ แม้ผลประโยชน์ทางวัตถุแต่ด้านเดียวจะมีมากและสำคัญ แต่ก็สำคัญน้อยว่าคุณประโยชน์ทางจิตใจ คนย่อมแสวงหาสิ่งดีเสมอ ข้อนี้คนย่อมขวนขวายเพื่อความยุติธรรมเพื่อความสมบูรณ์ทางจิตใจนั้นไม่มีปัญหา แม้ว่ายังห่างไกลจากจุดหมายปรายทางของตนอยู่ก็ตาม คนเป็นสัตว์ประเภทเดียวที่ได้รับความสามารถใช้เหตุผลและสื่อสารกันได้ ธรรมชาติไม่ใช่สิ่งอ่อนไหวเรรวน ธรรมชาติไม่ทำอะไรโดยปราศจากจุดมุ่งหมาย คนได้รับพรวิเศษเหล่านี้ทำให้สามารถคิดและแสดงออกในเรื่องอย่างเช่น ความยุติธรรมและความอยุติธรรม ความดีและความเลว แต่การมีความสามารถเหล่านี้แต่อย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้คนสามารถแสวงหาจุดหมายของความยุติธรรมและความสมบูรณ์ทางจิตใจได้ ถ้าคนดำรงชีวิตอยู่โดดเดี่ยว และจำต้องทุ่มเทเวลาที่ตื่นทุกๆขณะเพื่อสนองความต้องการทางกายแล้วเขาก็จะขาดช่องทางความเจริญก้าวหน้า ทุกคนมีชีวิตแบบนี้ คือ สัตว์ป่าไม่แตกต่างอะไรมากนักจากสัตว์ประเภทต่ำต้อยที่สุด อันที่จริง ไม่มีชีวิตมนุษย์ที่แท้จริงอยู่ภายนอกรัฐ สายทางก้าวหน้าไปสู่การปรับปรุง หรือแม้ความสมบูรณ์ของมนุษย์จะมีขึ้นได้ก็ด้วยความช่วยเหลือของการจัดระเบียบองค์การ ทั้งสัญชาตญาณและเหตุผลประกอบกัน ทำให้คนสามารถสร้างเสริมระเบียบองค์การที่ซับซ้อนยิ่งๆขึ้นจากครอบครัวเป็นหมู่บ้าน และเป็นรัฐในที่สุด ในการต่อสู่เพื่อปรับปรุงตนเอง รัฐ หรือ โพลิส[Polis]เป็นระเบียบองค์การขั้นสูงสุดของประชาคม ซึ่งคนใช้เพื่อแสวงหาความสมบูรณ์ทางจิตใจ

            แม้รัฐจะเป็นระเบียบองค์การที่คนสร้างเพื่อประโยชน์ของตนเอง แต่รัฐก็ยังเป็นสถาบันธรรมชาติอีกด้วย รัฐเป็นเครื่องแสดงถึงขั้นสมบูรณ์ของความเป็นสถาบัน แต่รัฐเป็นสิ่งที่มาก่อนบุคคลและก่อนระเบียบองค์การ(ปลีกย่อย)อื่นๆทั้งหมด เพราะว่าถ้าอยู่ภายนอกรัฐแล้ว คนย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่ขาดความหมาย เพื่อประโยชน์ในการอธิบายหลักปรัชญาข้อนี้ให้เป็นที่แจ่มกระจ่าง อริสโตเติล ยกข้อเปรียบเปรยกับเมล็ดพันธ์ดอกไม้ เมล็ดพันธ์เป็นเครื่องแสดงถึงธรรมชาติที่แท้จริงของพืชพันธ์ได้น้อยกว่าดอกไม้เมื่อยามบานเต็มที่ แต่กระนั้นเมล็ดพันธ์ก็มีอยู่ก่อนดอกไม้ ดังนั้น รัฐจึงเป็นธรรมชาติว่าบุคคล กว่าครอบครัวหรือหมู่บ้านซึ่งมีอยู่ก่อน รัฐเป็นเครื่องแสดงถึงจุดสูงสุดซึ่งคนในฐานะเป็นสัตว์สังคมได้บรรลุถุง ภายหลังที่มีวิวัฒนาการและประสบการณ์อันยาวนานมากับระเบียบองค์การในระดับย่อยกว่า รัฐเป็นแหล่งพำนักธรรมชาติ ซึ่งบุคคลบรรลุถึงในบั้นปลายของความมุ้งหน้าไปสู่ความสมบูรณ์ทางจิตใจ

            ทฤษฏีว่าด้วยวิวัฒนาการของอริสโตเติล ส่วนมากแบบฉบับกรีก อริสโตเติลเสนอทฤษฏีองค์อินทรีย์[Organic Theory]ของรัฐอย่างอ่อน คือ ทฤษฏีที่ถือว่าบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของรัฐได้รับประโยชน์จากรัฐซึ่งให้ศักดิ์ศรีและฐานะแก่บุคคลในฐานะมนุษย์ รัฐไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้น ถึงจะเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างสูง รัฐเป็นประชาคม รัฐต้องมีกฎข้อบังคับ มีกฎหมายเพื่อจัดการกับราษฎรของรัฐ แต่ประชาชนอยู่ร่วมกันด้วยพันธะของประชาคมและสมาชิกภาพอย่างแน่นแฟ้นยิ่งกว่ากฎหมาย ความสมบูรณ์ของทัศนะข้อนี้ เป็นที่เข้าใจและยอมรับในวงเขตอันสนิทชิดเชื้อของนครรัฐได้ง่ายว่าในนครรัฐสมัยใหม่ คติประชาธิปไตยใหม่ ยังคงนิยมรัฐที่ปล่อยให้บุคคลมีเสรีภาพมากๆแต่ระยะหลังๆนี้ บรรดานักคิดเสรีประชาธิปไตยพากันตระหนักมากขึ้นๆว่า การเน้นถึงปัจเจกนิยมนั้น มักเป็นผลให้มีการประพฤติผิดต่อประชาคมจากคนที่ขาดสำนึกชั่วดี ซึ่งอ้างปลีกตนพ้นความรับผิดชอบได้สำเร็จในนามเสรีภาพส่วนบุคคล จึงเป็นอีกวาระหนึ่งที่รัฐได้รับการยอมรับ อย่างน้อยในส่วนหนึ่งและในบางประเทศว่า เป็นรูประเบียบองค์การอันสูงกว่า ซึ่งจำเป็นต่อการปรับปรุงสำหรับบุคคลและประชาคมเช่นเดียวกัน และมุ่งมั่นเพื่อจุดหมายทั้งสองด้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น